ลิเวอร์พูล อยู่อันดับไหน?ท็อป 10 มูลค่าเทคโอเวอร์สโมสรพรีเมียร์ลีก

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 9 พ.ย. 2565 17:46:33 น. เข้าชม 90 ครั้ง

แล้วจู่ๆ กลุ่ม เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (เอฟเอสจี) ของ จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ ก็ตัดสินใจขายสโมสร ลิเวอร์พูล แบบไม่ให้สุ้มให้เสียงจนทำเอาแฟนบอล หงส์แดง ตั้งตัวแทบไม่ทันเหมือนกัน

ถือเป็นข่าวที่น่าช็อกอย่างแรงเนื่องจากเท่าที่ผ่านมาไม่มีเค้าลางบอกเหตุเลยว่านักธุรกิจจากเมืองลุงแซมคิดผละออกจาก แอนฟิลด์ หลังเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรดังของ พรีเมียร์ลีก เมื่อ 12 ปีก่อน

หากยังจำกันได้ จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ ควักจ่ายไปแค่ 300 ล้านปอนด์เท่านั้นเมื่อปี 2010 เซ้งกิจการต่อจาก ทอม ฮิคส์ กับ จอร์จ จิลเล็ตต์ นักธุรกิจร่วมชาติซึ่งว่ากันว่ามาวันนี้เขาหวังรับทรัพย์เข้ากระเป๋า 4 พันล้านปอนด์แลกกับการโบกมือลาเมอร์ซีย์ไซด์

จะอย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว เอฟเอสจี จะทำกำไรได้เท่าไหร่ เรามาดูการเทคโอเวอร์สโมสรใน พรีเมียร์ลีก เท่าที่ผ่านมากันก่อนดีกว่าสำหรับมูลค่า 10 อันดับแรก

10.100 ล้านปอนด์ - สปอร์ต รีพับบลิค ซื้อ เซาธ์แฮมป์ตัน

หนึ่งในดีลที่เกิดขึ้นไม่นานเท่าไหร่เมื่อ สปอร์ต รีพับบลิค ประสบความสำเร็จในการเทคโอเวอร์ นักบุญ เมื่อเดือนม.ค.

ดรากัน โซลัค นักธุรกิจ เซอร์เบีย คว้าทีมลูกหนังอังกฤษมาเป็นกรรมสิทธิ์ต่อจาก เกา จี้เฉิง เจ้าของเดิมชาวจีน กระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เขาก็ตัดสินใจปลด ราล์ฟ ฮาเซนฮัทเทิ่ล ออกจากถิ่น เซนต์ แมรีส์ สเตเดี้ยม หลังจากกุนซือชาว ออสเตรีย ทำหน้าที่มานานสี่ปี

9.134 ล้านปอนด์ - ไมค์ แอชลีย์ ซื้อ นิวคาสเซิ่ล

นับเป็นกรณีที่ถูกโจมตีมากที่สุดหลังจากเจ้าของบริษัทขายอุปกรณ์กีฬา สปอร์ตส์ ไดเร็คต์ ย้ายมาเป็นใหญ่ใน เซนต์ เจมส์พาร์ค เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2007

แม้แรกทีเดียวสถานการณ์ทำท่าว่าจะไปได้สวย แต่พลันที่เขาปลดกุนซือ เควิน คีแกน พร้อมทั้งประกาศขายทีมในเวลาแค่ปีเดียว แฟนบอล สาลิกาดง ก็พากันสาปแช่งเขา และมันย่ำแย่หนักขึ้นไปอีกเนื่องจากทีมอีสานตกลงสู่ แชมเปี้ยนชิพ ถึงสองครั้งสองครา

จนในที่สุด แอชลีย์ ก็ยอมปล่อยมือจาก เดอะ แม็กพายส์ อย่างจริงๆจังๆหลังรับข้อเสนอ 300 ล้านปอนด์เมื่อเดือนต.ค.2021 ขายทีมให้กับ พับบลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ กลุ่มทุนจาก ซาอุดิ อาระเบีย


 

8.140 ล้านปอนด์ -โรมัน อบราโมวิช ซื้อ เชลซี

นับเป็นการเทคโอเวอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดครั้งหนึ่งหลังจากนักธุรกิจชาวเมืองหมีขาวเข้ามาลงทุนในลีกอังกฤษเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2003

และนับจากนั้น สิงห์บลูส์ ก็ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ห้าครั้ง , เอฟเอคัพ ห้าครั้ง , ลีกคัพ สามครั้ง , แชมเปี้ยนส์ลีก สองครั้ง และ ยูโรปาลีก สองครั้ง

แต่แล้วจากเหตุการณ์ที่ รัสเซีย รุกราน ยูเครน อิบราโมวิช ก็ถูกทางการอังกฤษบีบให้ขายทีมดังแห่งกรุงลอนดอนชนิดที่ทำเอาแฟนบอล เชลซี หัวเสียไปตามๆกัน

7.200 ล้านปอนด์ - ชาฮิด ข่าน ซื้อ ฟูแล่ม

แม้จะเป็นเจ้าของทีมเอ็นเอฟแอล แจ็คสันวิลล์ จากัวร์ อยู่ก่อนแล้ว ข่าน ก็ตัดสินใจจ่ายเงินเทคโอเวอร์ทีม เจ้าสัวน้อย มาอยู่ในความครอบครองเมื่อปี 2013 ต่อจาก โมฮาเหม็ด อัล ฟาเยด เจ้าของห้างสรรพสินค้า แฮร์ร็อด

อย่างไรก็ดี ฟูแล่ม หนีไม่พ้นขึ้นๆลงๆจาก พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนชิพ สามรอบ แถม ข่าน ยังสนใจซื้อสนาม เวมบลีย์ เมื่อปี 2018 ด้วย แต่ไม่เป็นผล

6.210 ล้านปอนด์ -ชีค มันซูร์ ซื้อ แมนฯ ซิตี้

หลังจาก เสี่ยหมี ประสบความสำเร็จกับ เชลซี ชีค มันซูร์ แห่ง อาบู ดาบี ก็เจริญรอยตามได้อย่างยอดเยี่ยมหลังเข้ามาเป็นเจ้าของทีม เรือใบสีฟ้า

ก่อนพ้นเส้นตายตลาดนักเตะปี 2008 เจ้าของใหม่ แมนฯ ซิตี้ ตัดสินใจควักจ่าย 210 ล้านปอนด์พร้อมทั้งทุ่มเงินคว้า โรบินโญ่ มาเสริมทัพทันที

กระทั่งมาบัดนี้ เรือใบสีฟ้า กวาดแชมป์มาแล้ว 17 ใบนับตั้งแต่ปี 2010 แถมไม่มีทีท่าว่าจะหมดยุคทองด้วยเนื่องจากสโมสรอยู่ในกำมือของยอดโค้ชอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งเข้ามาคุมทีมตั้งแต่ซีซั่น 2016/17


 

=4.300 ล้านปอนด์ - เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป ซื้อ ลิเวอร์พูล

เฮนรี่ เข้ามาเทคโอเวอร์ หงส์แดง เมื่อเดือนต.ค.2010 และพาทีมก้าวพ้นจากความตกต่ำมานานได้สำเร็จหลังคว้า เจอร์เก้น คล็อปป์ มานั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีม

บอกได้เลยว่านายใหญ่ด๊อยทช์เป็นการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของ เอฟเอสจี เนื่องจากเขาสำแดงฝีมือพา หงส์แดง คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นสมัยแรกได้สำเร็จ รวมถึงการคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นสมัยที่หกด้วย

อย่างไรก็ดี ไม่วายที่สาวก เร้ด แมชีน จะพากันโจมตีเจ้าของสโมสรว่าไม่ทุ่มเงินเสริมทัพมากพอ กระทั่งมีประเด็นของ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ซึ่ง เฮนรี่ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมสมคบคิดก่อตั้ง แต่หลังจากมันล้มเหลวไม่เป็นท่าเนื่องจากแฟนบอลพากันรุมคัดค้านอย่างหนักก็เชื่อว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาประกาศขาย หงส์แดง

=4.300 ล้านปอนด์ -พีไอเอฟ ซื้อ นิวคาสเซิ่ล

แสดงความจำนงที่จะเทคโอเวอร์ สาลิกาดง หนแรกเมื่อเดือนเม.ย.2020 แต่ถอนตัวหลังเกิดความล่าช้าเนื่องจากถูก พรีเมียร์ลีก ตรวจสอบ แต่หวนกลับมาทาบซื้อสโมสรแม้จะมีคำครหากรณีละเมิดสิทธิมนุษยชน

จนในที่สุด การเซ็นสัญญาก็เกิดขึ้นในเดือนต.ค.2021 โดยมี ยาซีร์ อัล รูมายยัน กับ อาแมนด้า สตีฟลีย์ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ และนอกจากจะทุ่มเงินเสริมทัพแล้ว พีเอฟไอ ยังแต่งตั้ง เอ็ดดี้ ฮาว พาทีมอยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก ได้ด้วย

กระทั่งในซีซั่นนี้ นิวคาสเซิ่ล มีผลงานที่ดีโดยรั้งอันดับสามของ พรีเมียร์ลีก จนทำให้หลายฝ่ายมองว่าพวกเขาจะกลายมาเป็นท็อปโฟร์หน้าใหม่ของวงการ

3.731 ล้านปอนด์ - สแตน โครนเก้ ซื้อ อาร์เซน่อล

นักลงทุนชาวอเมริกันเริ่มเข้ามาสุงสิงกับ เดอะ กันเนอร์ส เมื่อปี 2008 ด้วยการถือครองหุ้น และเพิ่มสัดส่วนมากขึ้นเป็นลำดับจนในที่สุดเขาก็กลายเป็นเจ้าของสโมสรด้วยการใช้เงินไปทั้งสิ้น 731 ล้านปอนด์คว้าหุ้นก้อนโตมาครอบครอง

ผ่านการร่วมงานกับผู้จัดการทีมอย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ , อูไน เอเมรี่ และมาจนถึง มิเกล อาร์เตต้า แต่ไม่อาจนำพาทีม ปืนใหญ่ ประสบความสำเร็จเหมือนยุคก่อน

ตกเป็นข่าวพร้อมขายสโมสรหลายครั้ง กระทั่งไม่นานมานี้ ดาเนี่ยล เอ็ค ซีอีโอ สปอร์ติฟาย สนใจเทคโอเวอร์อย่างจริงๆจังๆ แต่ข้อเสนอไม่มากพออย่างที่เขาต้องการ จึงทำให้ โครนเก้ ยังเป็นเจ้าของ อาร์เซน่อล มาจนบัดนี้ท่ามกลางความ 

=4.300 ล้านปอนด์ - เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป ซื้อ ลิเวอร์พูล

เฮนรี่ เข้ามาเทคโอเวอร์ หงส์แดง เมื่อเดือนต.ค.2010 และพาทีมก้าวพ้นจากความตกต่ำมานานได้สำเร็จหลังคว้า เจอร์เก้น คล็อปป์ มานั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีม

บอกได้เลยว่านายใหญ่ด๊อยทช์เป็นการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของ เอฟเอสจี เนื่องจากเขาสำแดงฝีมือพา หงส์แดง คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นสมัยแรกได้สำเร็จ รวมถึงการคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นสมัยที่หกด้วย

อย่างไรก็ดี ไม่วายที่สาวก เร้ด แมชีน จะพากันโจมตีเจ้าของสโมสรว่าไม่ทุ่มเงินเสริมทัพมากพอ กระทั่งมีประเด็นของ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ซึ่ง เฮนรี่ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมสมคบคิดก่อตั้ง แต่หลังจากมันล้มเหลวไม่เป็นท่าเนื่องจากแฟนบอลพากันรุมคัดค้านอย่างหนักก็เชื่อว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาประกาศขาย หงส์แดง

=4.300 ล้านปอนด์ -พีไอเอฟ ซื้อ นิวคาสเซิ่ล

แสดงความจำนงที่จะเทคโอเวอร์ สาลิกาดง หนแรกเมื่อเดือนเม.ย.2020 แต่ถอนตัวหลังเกิดความล่าช้าเนื่องจากถูก พรีเมียร์ลีก ตรวจสอบ แต่หวนกลับมาทาบซื้อสโมสรแม้จะมีคำครหากรณีละเมิดสิทธิมนุษยชน

จนในที่สุด การเซ็นสัญญาก็เกิดขึ้นในเดือนต.ค.2021 โดยมี ยาซีร์ อัล รูมายยัน กับ อาแมนด้า สตีฟลีย์ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ และนอกจากจะทุ่มเงินเสริมทัพแล้ว พีเอฟไอ ยังแต่งตั้ง เอ็ดดี้ ฮาว พาทีมอยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก ได้ด้วย

กระทั่งในซีซั่นนี้ นิวคาสเซิ่ล มีผลงานที่ดีโดยรั้งอันดับสามของ พรีเมียร์ลีก จนทำให้หลายฝ่ายมองว่าพวกเขาจะกลายมาเป็นท็อปโฟร์หน้าใหม่ของวงการ

3.731 ล้านปอนด์ - สแตน โครนเก้ ซื้อ อาร์เซน่อล

นักลงทุนชาวอเมริกันเริ่มเข้ามาสุงสิงกับ เดอะ กันเนอร์ส เมื่อปี 2008 ด้วยการถือครองหุ้น และเพิ่มสัดส่วนมากขึ้นเป็นลำดับจนในที่สุดเขาก็กลายเป็นเจ้าของสโมสรด้วยการใช้เงินไปทั้งสิ้น 731 ล้านปอนด์คว้าหุ้นก้อนโตมาครอบครอง

ผ่านการร่วมงานกับผู้จัดการทีมอย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ , อูไน เอเมรี่ และมาจนถึง มิเกล อาร์เตต้า แต่ไม่อาจนำพาทีม ปืนใหญ่ ประสบความสำเร็จเหมือนยุคก่อน

ตกเป็นข่าวพร้อมขายสโมสรหลายครั้ง กระทั่งไม่นานมานี้ ดาเนี่ยล เอ็ค ซีอีโอ สปอร์ติฟาย สนใจเทคโอเวอร์อย่างจริงๆจังๆ แต่ข้อเสนอไม่มากพออย่างที่เขาต้องการ จึงทำให้ โครนเก้ ยังเป็นเจ้าของ อาร์เซน่อล มาจนบัดนี้ท่ามกลางความฉุนเฉียวของสาวก เดอะ กันเนอร์ส


 

2.790 ล้านปอนด์ -ตระกูล เกลเซอร์ ซื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด

ตระกูลดังจากอเมริกาเข้ามาเกี่ยวพันกับ ผีแดง ด้วยการคว้าหุ้นของสโมสรไปครอบครองในอัตรา 3.17% เมื่อปี 2003 และจากนั้นก็ซื้อหุ้นเพิ่มอย่างต่อเนื่องในเวลาสองปีกระทั่งเทคโอเวอร์แบบเบ็ดเสร็จในปี 2005

แม้จะประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ถูกแฟนบอลโวยหนักที่ไม่คิดลงทุนปรับปรุง โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกทั้งเพิ่มหนี้สินตลอดเวลา แถมยังมีส่วนร่วมก่อตั้ง ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ที่โดนกองเชียร์แอนตี้จนล่มไม่เป็นท่า

ถูกแฟนบอลเดินขบวนขับไล่ถี่ยิบ แต่ไม่เกิดผลกระทบอะไรทั้งนั้น และเมื่อปี 2010 แฟนบอลกลุ่ม เร้ด ไนท์ส พยายามเทคโอเวอร์ทีมรัก แต่ไม่มีเงินมากพอตามที่ตระกูล เกลเซอร์ ต้องการ

1.4.25 พันล้านปอนด์ -ท็อดด์ โบลีห์ ซื้อ เชลซี

นี่คือการเทคโอเวอร์ที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีกหลังจาก อบราโมวิช ถูกรัฐบาลเมืองผู้ดีบีบให้ขาย สิงห์บลูส์ เมื่อเดือนพ.ค.

แม้จะลงทุนให้ทีมเสริมทัพเมื่อช่วงซัมเมอร์ แต่ขณะเดียวกัน โบลีห์ ก็สร้างความตกตะลึงด้วยการปลด โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมชาว เยอรมัน แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และดึง แกรห์ม พ็อตเตอร์ จากทีม ไบรท์ตัน มารับภาระแทน