เอ็มบัปเป้, ฮาลันด์ ยิงอีกกี่ปีทาบสถิติ "700" ประตู โรนัลโด้

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 14 ต.ค. 2565 16:07:33 น. เข้าชม 148 ครั้ง

ไม่มีใครสงสัยความสุดยอดของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส หลังเจ้าตัวเพิ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นแข้งรายแรกซัดครบ 700 ประตูในระดับสโมสรเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

"เฮียโด้" สร้างชื่อให้กับตัวเองอีกครั้งในแมตช์เฉือน เอฟเวอร์ตัน เมื่อตะบันประตูสำคัญช่วยต้นสังกัดคว้าชัยชนะถึงถิ่นกูดิสัน พาร์ค และยังเป็นประตูที่ทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายเหนือพ่อค้าแข้งคนอื่นๆ ในโลกใบนี้

แน่นอนว่าสถิติ 700 ประตูในระดับสโมสรคงไม่หยุดแค่นี้ เนื่องจาก "ซีอาร์ เซเว่น" ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการลูกหนัง ดังนั้นแฟนๆ คงได้เห็นการยิงประตูของเขาต่อไปเรื่อยๆ เพียงแต่ว่าตัวเลขดังกล่าว มันช่างน่าอัศจรรย์ และยากมากที่จะทำได้

สำหรับสถิติดังกล่าว ลิโอเนล เมสซี่ ก็มีโอกาสที่จะทำได้ในฤดูกาลนี้ แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือกองหน้าดาวรุ่งอย่าง เออร์ลิง ฮาลันด์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จะสามารถทำได้ไหม ? 

ปัจจุบัน "ประธานเป้" กับ ฮาลันด์ กำลังทำผลงานได้เด็ดสะระตี่ในการกระซวกตาข่ายคู่แข่งเป็นว่าเล่น ฉะนั้นอาจมีโอกาสที่ทั้งสองคนจะสร้างสถิติที่สุดยอดเหมือนกับ "เฮียโด้" แต่พวกเขาจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะทำได้ !

ดาวเตะเจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัย ตะบันประตูให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำนวน 144 ลูก โดยก่อนหน้านั้นสมัยที่ก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่สปอร์ติ้ง ลิสบอน นักเตะซัดไปเเค่ 5 ประตูจาก 31 เกม


 

ตามด้วยสถิติ 144 ลูกกับการเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด 340 แมตช์, จากนั้นก็ เรอัล มาดริด 450 ประตูจาก 438 เกม และ "ม้าลาย" ยูเวนตุส 101 ประตูจาก 134 เกม รวมเบ็ดเสร็จ 700 ประตูจากการเล่นระดับสโมสร 945 เกม 

นอกจาก เมสซี่ ที่มีโอกาสใกล้เคียงสุดในการทาบสถิติดังกล่าวของ โรนัลโด้ เพราะแข้งอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ซึ่งซัดไปคนละ 456 ประตู, 510 ประตู และ 538 ประตู ตามลำดับ ยังคงห่างไกลจาก ดาวเตะชาวโปรตุกีส หลายร้อยลูก แถมอายุอานามแต่ละคนก็เข้าสู่ช่วยปลายอาชีพแล้วด้วย 

ก็อย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่าสถิติ 700 ลูกของ โรนัลโด้ ยังคงไม่จบ แม้เขาจะอายุ 37 ปีแล้วแต่สภาพร่างกายยังแข็งแรง นั่นทำให้นักเตะสามารถค้าแข้งในระดับสูงอีกอย่างน้อย 2-3 ซีซั่น และเป็นโอกาสที่จะเพิ่มจำนวนตัวเลขมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้คงต้องมองไปที่บรรดากองหน้ารุ่นใหม่ที่มีโอกาสจะสร้างสถิติแซงหน้า โรนัลโด้ ซึ่งแน่นอนว่ามันมีความเป็นไปได้อยู่แล้ว แต่คงไม่มีทางเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีต่อจากนี้แน่นอน !!!

ฮาลันด์ กำลังทำผลงานร้อนแรงแบบช้างมาฉุดก็ไม่อยู่นับตั้งแต่ที่ย้ายมาร่วมงานกับกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า โดยตอนนี้เจ้าตัวตะบันในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปแล้ว 15 ประตูจากการเล่นแค่ 9 เกมเท่านั้น 

สำหรับสถิติการยิงประตูในปัจจุบันของเขาอยู่ที่ 155 ลูกใน 195 จากการค้าแข้งให้กับ บริน, โมลด์, เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 


 

จากผลงานของ ฮาลันด์ นั่นหมายความว่าเขามีค่าเฉลี่ยการยิงประตูอยู่ที่ 0.8 ลูกต่อเกม และสถิติดังกล่าวถือว่าทำได้รวดเร็วกว่ากัปตันทีมชาติโปรตุเกสด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม นักเตะชาวนอร์เวย์ ยังเหลือจำนวนประตูที่ต้องยิงอีกถึง 545 ลูกถึงจะทาบสถิติของ โรนัลโด้ และถ้าหากจะทำให้ได้นักเตะต้องยิงอย่างน้อย 42 ลูกในทุกๆ ซีซั่นถึงจะก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับ "เฮียโด้" ซึ่งหากถึงตอนนั้น ฮาลันด์ ก็จะอายุ 35 ปีเลยทีเดียว

ฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ สำหรับ ฮาลันด์ ที่จะประสบความสำเร็จแบบ โรนัลโด้ ถ้าหากเขาไม่มีระเบียบวินัยที่เคร่งครัดในการดูแลสภาพร่างกายให้แข็งแกร่งอยู่เสมอ

งั้นมาดูที่ เอ็มบัปเป้ ซึ่งมีฟอร์มการเล่นโหดไม่แพ้ ฮาลันด์ ผลงานก็ถือว่ายอดเยี่ยม ในเวลานี้นักเตะตะบันไป 210 ประตูจากจำนวน 288 แมตช์ที่เล่นให้กับ โมนาโก และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งเขาขาดอีกแค่ 18 ลูกก็จะกลายเป็นดาวซัลโวตลอดกาลทัพ "เปแอสเช" 


 

หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 มีค่าเฉลี่ยในการยิงประตูอยู่ที่ 0.74 ลูกต่อเกม น้อยกว่า ฮาลันด์ และ โรนัลโด้ โดย เอ็มบัปเป้ จะทำสถิติ 700 ประตูต้องใช้เวลาถึง 12 ปี และยิงอย่างน้อย 41 ลูกในทุกๆ ฤดูกาลติดต่อกัน

ส่วนนักเตะที่ใกล้เคียงที่สุดที่จะทาบสถิติของ โรนัลโด้ นั่นก็คือ เมสซี่ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคู่ต่อกรแย่งความยิ่งใหญ่กันมานานเกือบ 2 ทศวรรษ ตามหลัง ดาวเตะ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แค่ 9 ลูกเท่านั้น 

งานนี้บอกเลยว่า สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ อาจจะยิงครบ 700 ลูกในระดับสโมสรก่อนถึงช่วงคริสต์มาสนี้ เพราะผลงาน 5 ประตูจาก 9 เกมในลีก เอิง ซีซั่นปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่า ตำนานบาร์เซโลน่า กลับมาสู่ฟอร์มที่เก่งที่สุดอีกครั้งแล้ว 

สำหรับสถิติการยิงประตูของ โรนัลโด้ คงไม่จบแค่ตัวเลข "700" และแน่นอนว่าทุกครั้งที่เขาส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย มันจะกลายเป็นสถิติใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังระดับสโมสรต่อไป