ตั๋วชปล.เบียด, หนีตายจ้าละหวั่น!6 ประเด็นร้อนก่อนเกม พรีเมียร์ลีก นัดรองสุดท้าย

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 15 พ.ค. 2565 13:44:59 น. เข้าชม 288 ครั้ง

พรีเมียร์ลีก เดินทางมาถึงนัดรองสุดท้าย โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มที่ยังได้ลุ้นคือ การลุ้นแชมป์, ตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก และหนีตกชั้น ไปดูกันเลยว่าแต่ละคู่จะมีดีกรีความดุเดือดแค่ไหน!

    "สเปอร์ส-เบิร์นลี่ย์"

    หากชัยชนะตกเป็นของทีมเจ้าถิ่น จะทำให้ "ไก่เดือยทอง" กระโดดขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ด้วยการมีแต้มเหนือ อาร์เซน่อล 2 คะแนน โดยฝ่ายหลังจะมีคิวบุกเยือน นิวคาสเซิ่ล ในคืนวันจันทร์

    ขณะเดียวกัน ทีมเยือนอย่าง เบิร์นลี่ย์ ก็ยังต้องการแต้มเพื่อดิ้นรนหนีตายสุดชีวิต และ 3 แต้มจากเกมนี้ก็จะต่อความหวังให้กับพวกเขา ซึ่งปัจจุบัน "เดอะ คลาเร็ตส์" รั้งอยู่อันดับ 17 ของตาราง โดยมีแต้มตามหลัง เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 16 อยู่ 2 แต้ม และมีคะแนนเหนือ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 18 อยู่แต้มเดียว

    แฮร์รี่ เคน กองหน้าตัวเก่งของ สเปอร์ส ถือครองสถิติผู้เล่นที่ทำประตูในเกมวันอาทิตย์มากที่สุด โดยซัดไปแล้ว 69 ลูก และหากเขามีสกอร์เกมนี้ก็จะทำให้ เคน เป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำประตูได้แตะหลัก 70 ลูกขึ้นไปในวันที่ต่างกัน(วันเสาร์)



  

   เบิร์นลี่ย์ มองหาชัยชนะไป-กลับเหนือ สเปอร์ส ให้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1974/75 ซึ่งปีนั้นเป็นปีสุดท้ายที่พวกเขาสามารถบุกชนะ "ไก่เดือยทอง" ได้

    มักซ์เวล กอร์เนต์ นำเป็นดาวซัลของ เบิร์นลี่ย์ ในซีซั่นนี้ด้วยจำนวน 8 ประตูมากกว่าเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ ที่ตามมาถึง 2 เท่า โดยเขาขาดอีก 2 ประตูเพื่อก้าวขึ้นไปเป็นผู้เล่นไอวอรี่ โคสต์ รายที่ 4 ที่ยิงได้อย่างน้อย 10 ในการเล่น พรีเมียร์ลีก ปีแรกต่อจาก ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (2004/05), อารูน่า โคเน่ (2012/13) และ วิลฟรีด โบนี่ (2013/14)ในส่วนเรื่องของสถิติ สเปอร์ส ไม่แพ้ เบิร์นลี่ย์ เกมลีกในบ้านตัวเองเลยตลอด 9 ครั้งหลังสุด (ชนะ 8 เสมอ 1) โดย 3 เกมหลังสามารถเอาชนะด้วยผลประตูรวม 10-0

    "ลีดส์-ไบรท์ตัน"
    ลีดส์ ยูไนเต็ด ต้องการชัยชนะอย่างที่สุดเพื่อดิ้นรนหนีตาย ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยตัวเองให้ได้เท่านั้น แต่ยังต้องพึ่งทีมอื่นด้วยเช่นกัน

    ปัจจุบัน "ยูงทอง" มีแต้มเท่ากับ เบิร์นลี่ย์ ทีมอันดับ 17 และมีแต้มตาม เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 16 2 แต้ม อย่างไรก็ตาม ทั้งสองทีมดังกล่าวมีเกมในมือมากกว่าพวกเขาอยู่ 1 นัดพร้อมกับประตูได้-เสียที่มากกว่า "ยูงทอง" หลายประตู (ลีดส์ ติดลบ 38, เบิร์นลี่ย์ ติดลบ 17, เอฟเวอร์ตัน ติดลบ 19)

    จากสถิติเผยว่า ลีดส์ เป็นทีมที่เล่นเกมในบ้านนัดสุดท้ายของซีซั่นบนลีกสูงสุดได้ดีเอามาก ๆ เมื่อที่ผ่านมาแพ้ครั้งเดียวตลอด 18 เกม (ชนะ 10 เสมอ 7)


 

 97 ใบเหลือง และ 3 ใบแดงที่ ลีดส์ ประสบพบเจอ มีโอกาสที่พวกเขาเป็นทีมแรกที่โดนใบเหลืองครบ 100 ใบใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นเดียว นอกจากนี้ ลีดส์ ยังเป็มที่ทำฟาวล์คู่แข่งมากกว่าทีมใด ๆ (440 ครั้ง)

    ไบรท์ตัน บุกชนะ ลีดส์ ได้ถึง 5 นัดจาก 7 เกมหลังสุด (แพ้ 2) โดยที่ก่อนหน้านั้น 16 นัดที่เยือน เอลแลนด์ โร้ด พวกเขาเอาชนะได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น (เสมอ 6 แพ้ 9)

    "เดอะ ซีกัลส์" สอยตาข่ายคู่แข่งได้ถึง 9 ลูกจาก 3 นัดหลัง เทียบเท่ากับสถิติก่อนหน้าที่ต้องใช้จำนวนนัดถึง 14 เกม ขณะที่ชัยชนะเหนือ วูล์ฟส์ 3-0 และ แมนฯ ยูไนเต็ด 4-0 ในสองเกมล่าสุด พวกเขาก็หวังต่อยอดคว้าชัยสามเกมติดโดยที่ยิงด้วยผลต่างอย่างน้อย 3 ประตูเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 1969

    "เวสต์แฮม-แมนฯ ซิตี้"
    หากชัยชนะเกมนี้ตกเป็นของฝั่งทีมเยือน จะทำให้ แมนฯ ซิตี้ แทบการันตีแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ไปครอง โดยจะเป็นการทำแต้มห่าง ลิเวอร์พูล 6 แต้มและมีประตูได้-เสียที่มากกว่าบานเบอะ 

    ขณะเดียวกัน เวสต์แฮม ยังมีความหวังที่จะทำอันดับแซงหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นไปรั้งอันดับ 6 ของตารางคะแนน ซึ่งปัจจุบันลูกทีม เดวิด มอยส์ อยู่อันดับ 7 มีแต้มตามหลัง "ปีศาจแดง" 3 แต้ม โดยลงเล่นน้อยกว่า 1 นัด

    "เรือใบสีฟ้า" กำลังลุ้นเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ที่คว้าชัยชนะ 5 เกมติดต่อกันด้วยผลสกอร์ห่างแต่ละนัด 3 ลูกขึ้นไป


 

  "เดอะ แฮมเมอร์ส" เคยเอาชนะทีมที่รั้งจ่าฝูงมาแล้วในซีซั่นนี้ โดยตอนนั้นสามารถเอาชนะ เชลซี 3-2 ตอนเดือนธันวาคม ถึงกระนั้น พวกเขายังไม่เคยทำแบบนั้น 2 เกมติดได้เลยนับตั้งแต่คว้าชัยเหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่รั้งจ่าฝูงตอนซีซั่น 2006/07 ซึ่ง เวสต์แฮม เอาชนะได้ทั้งไป-กลับ นอกจากนี้ "ขุนค้อน" ยังไม่เคยเอาชนะทีมจ่าฝูงที่ไม่ใช่ทีมเดิม 2 ครั้งได้เลยนับตั้งแต่ฤดูกาล 1982/83 ที่ตอนนั้นชนะ ลิเวอร์พูล กับ "ปีศาจแดง"

    ราฮีม สเตอร์ลิง มีส่วนร่วมกับประตูที่ต้นสังกัดยิงใส่ เวสต์แฮม ถึง 14 ลูกจาก 16 เกมลีกที่เจอกัน (8 ประตู 6 แอสซิสต์) โดย 9 ลุกจากจำนวนดังกล่าวเกิดขึ้นจาก 5 เกมที่เล่นที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม (4 ประตู 1 แอสซิสต์) ซึ่งมีเกมที่เขาทำแฮตทริกได้เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2019

    เวสต์แฮม ทำประตูในถิ่นตัวเองซีซั่นนี้ได้ตลอด 18 นัด โดยนับตั้งแต่อดีตมีแค่ 2 ฤดูกาลเท่านั้นที่พวกเขายิงในบ้านทุกเกม ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อซีซั่น 1980/81 สมัยเล่นลีกรอง และฤดกาล 1926/27 ที่เล่นบนลีกสูงสุด

    "เอฟเวอร์ตัน-เบรนท์ฟอร์ด" 
    หาก เอฟเวอร์ตัน คว้าชัยเหนือ เบรนท์ฟอร์ด ได้จะเพิ่มโอกาสการอยู่รอดมากขึ้นไปอีก โดยตอนนี้พวกเขามีแต้มเหนือ เบิร์นลี่ย์ ทีมอันดับ 17 และ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 18 อยู่ 2 แต้ม ซึ่ง "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" แข่งเท่ากับ "เดอะ คลาเร็ตส์" และแข่งน้อยกว่า "ยูงทอง" 1 นัด

    เอฟเวอร์ตัน ต้องการเดินหน้าสู่การไร้พ่าย 4 เกมติดให้ได้นับตั้งแต่ตอนต้นฤดูกาลที่ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือคนเก่าทำไว้ สำหรับสถิติการเจอกับ เบรนท์ฟอร์ด ในรังทุกรายการนั้น ปรากฏว่าพวกเขาเอาชนะได้ทั้งหมด และเจอกันมาแล้วที่ กูดิสัน พาร์ค ในถ้วย เอฟเอ คัพ โดยเจ้าถิ่นกำชัยเหนือทีมเยือน 4-1


 

 "เดอะ บีส์" เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ในลีกเกมก่อนหน้านี้ 1-0 ตอนเดือนพฤศจิกายน และครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเอาชนะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" แบบไป-กลับเกมลีกต้องย้อนไปเมื่อฤดูกาล 1935/36 ซึ่งเป็นปีแรกที่ทั้งคู่เผชิญหน้ากัน

    เบรนท์ฟอร์ด มีประตูได้-เสียบวก 15 ลูก โดยสถิติทีมที่ลงเล่นบนศึก พรีเมียร์ลีก ปีแรกแล้วมีลูกได้-เสียที่มากกว่านี้คือ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส (16) ตอนฤดูกาล 1995/96

    "นิวคาสเซิ่ล-อาร์เซน่อล"
    หาก อาร์เซน่อล ต้องการจะคว้าตั๋ว แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้าแบบที่ไม่ต้องหวังพึ่งใคร พวกเขาต้องคว้าชัยชนะให้ได้ในสองเกมที่เหลือ

    "เดอะ กันเนอร์ส" มีสถิติยอดเยี่ยมยามเจอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด โดยเอาชนะได้ถึง 17 จาก 18 เกมที่พบกันบนเวที พรีเมียร์ลีก ซึ่งนัดเดียวที่ไม่ชนะคือเกมที่บุกพ่าย 1-2 ที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค เมื่อเดือนเมษายนปี 2018


 

อาร์เซน่อล ยัดเยียดความปราชัยให้ "สาลิกาดง" 7 นัดติดทุกรายการ และไม่เสียประตูเลย โดยมีทีมลีกสูงสุดแค่ทีมเดียวเท่านั้นที่เอาชนะคู่แข่งติดต่อกันแบบเก็บคลีนชีตได้มากกว่านี้คือ ลิเวอร์พูล ที่ชนะ เวสต์บรอมวิช 9 นัดติดตอนช่วงระหว่างปี 2002 ถึงปี 2010

    "เดอะ แม็กพายส์" เอาชนะเกมในบ้านนัดสุดท้ายของซีซั่น 6 จาก 8 ฤดูกาลหลังสุด (แพ้ 2) ซึ่งทีมเดียวที่พวกเขาแพ้คือ ลิเวอร์พูล (2018/19 และ 2019/20)

    ขณะที่ "ไอ้ปืนใหญ่" แพ้เกมนอกบ้านนัดสุดท้ายของฤดูกาลครั้งเดียวจาก 11 ปีหลัง (ชนะ 7 เสมอ 3) โดยแพ้ แอสตัน วิลล่า 0-1 เมื่อซีซั่น 2019/20

    "เซาธ์แฮมป์ตัน-ลิเวอร์พูล"
    ก่อนคู่นี้จะเริ่มขึ้นก็รู้กันไปแล้วว่า แมนฯ ซิตี้ มีแต้มเหนือกว่า ลิเวอร์พูล กี่แต้ม อย่างไรก็ดี "หงส์แดง" ยังต้องเดินหน้าคว้าชัยเพื่อไปลุ้นอีกเฮือกนัดสุดท้าย หลังจากคว้าโทรฟี่ เอฟเอ คัพ มาครอบครองได้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

    ฤดูกาลก่อน เซาธ์แฮมป์ตัน เอาชนะ "หงส์แดง" ในบ้านตัวเอง 1-0 ซึ่งครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเอาชนะ ลิเวอร์พูล ในฐานะทีมเจ้าบ้าน 2 ครั้งติดก็ต้องย้อนไปเมื่อเดือนมีนาคมปี 2004 และเดือนมีนาคมปี 2013(ชนะ 3 นัดติด)


 

อย่างไรก็ดี "เร้ด แมชชีน" เอาชนะ "เดอะ เซนต์ส" 8 จาก 9 เกมหลังสุดโดยชัยชนะแต่ละนัดมีผลต่างสกอร์อย่างน้อยสองประตู

    ลิเวอร์พูล มีสถิติชนะ 7 นัดจาก 8 ครั้งที่ลงเล่นเกมกลางสัปดาห์(อังคาร, พุธ, พฤหัสบดี) โดยแพ้ไปครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม 1 ใน 2 นัดที่พวกเขาแพ้ในลีกซีซั่นนี้เกิดขึ้นในคืนวันอังคารที่บุกพ่าย เลสเตอร์ 0-1

    เซาธ์แฮมป์ตัน มีชัยเหนือ ลิเวอร์พูล ในเกม พรีเมียร์ลีก บ้านตัวเอง 8 นัดโดยมาจาก 8 กุนซือที่ไม่ซ้ำหน้า โดยกุนซือ "นักบุญ" คนล่าสุดที่คว้าชัยเหนือ "หงส์แดง" ในบ้านสองครั้งติดคือ คริส นิโคล เมื่อฤดูกาล 1989/90 และ 1990/91